
"ไมเกรน" (Migraine)
เป็นโรคปวดศีรษะชนิดหนึ่งที่เกิดจากความผิดปกติระบบประสาทที่หลอดเลือดแดงบริเวณศีรษะซึ่งเป็นโรคเรื้อรังไม่หายขาดซึ่งอาจจะมีอาการเป็นครั้งคราวลักษณะที่สำคัญของไมเกรน ประกอบด้วย ส่วนใหญ่มักจะปวดศีรษะข้างเดียวประมาณ 60% หรือจะมีอาการปวดศีรษะทั้ง 2 ข้างก็ได้ โดยทั่วไปจะมีอาการปวดศีรษะนาน 4 - 72 ชั่วโมงและมักจะมีอาการคลื่นไส้อาเจียนและเวียนศีรษะร่วมด้วย รวมถึงอาการปวดที่ไวต่อแสงหรือเสียงก็ได้
อาการศีรษะไมเกรน ปวดศีรษะมักจะปวดข้างเดียว อาจจะสลับซ้ายขวาได้ ลักษณะปวดเป็นแบบตุ๊บๆๆๆ น้อยรายที่จะปวดพร้อมกันสองข้าง ปวดมากจนทำงานไม่ได้ ปวดศีรษะมากจนทำงานไม่ได้ บางคนปวดจนน้ำตาไหล ส่วนใหญ่ปวด 4-72 ชั่วโมง ปัจจัยที่ทำให้ปวดศีรษะมากขึ้นคือการเคลื่อนศีรษะ หลังปวดศีรษะอาจมีอาการคลื่นไส้ ถ้าเป็นมากจะอาเจียน โดยมากจะมีสิ่งที่กระตุ้นทำให้ปวดศีรษะได้แก่ แสงจ้า เย็นหรือร้อนจัด เสียงดัง โดยมากเป็นในอายุน้อย อาการปวดศีรษะมักจะเริ่มช่วงวัยรุ่นเมื่ออายุมากขึ้นอาการปวดศีรษะจะดีขึ้น บางครั้งผู้ป่วยที่เป็นไมเกรนอาจจะมีอาการนำ aura เช่นเห็นแสงแลบ ตามองไม่เห็น ชาซีกใดซีกหนึ่งเราเรียก classic migrain อาการปวดมักปวดบริเวณหน้าผาก รอบดวงตา ขมับและขากรรไกร อาการปวดมักปวดข้างใดข้างหนึ่ง แต่ส่วนใหญ่ไม่มีอาการนำเรียก common migrain ไม่เกรนเป็นโรครักษาไม่หายขาดแต่ถ้าเข้าใจและปฏิบัติตามคำแนะนำสามารถทำให้ควบคุมโรคได้ การควบคุมปัจจัยชักนำ ปัจจัยชักนำมิใช่สาเหตุแต่เป็นเพียงปัจจัยเริ่มที่ทำให้เกิดอาการปวดศีรษะ ผู้ป่วยแต่ละคนอาจจะมีปัจจัยชักนำไม่เหมือนกัน อาหาร ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่กระตุ้นไมเกรน เช่น แอลกอฮอล์โดยเฉพาะไวน์แดง ผงชูรส อาหารที่มี tyramine เช่น เนย นม ชอคโกแลต กล้วยหอม ผงชูรส ผลไม้ประเภทส้ม กาแฟและชา การนอน ควรนอนให้เป็นเวลาและนอนให้พอ ตื่นให้เป็นเวลา ฮอร์โมน ผู้หญิงเมื่ออายุมากขึ้นอาการจะปวดดีขึ้น การตั้งครรภ์ในระยะเริ่มแรกปวดศีรษะจะเป็นมากระยะหลังตั้งครรภ์อาการปวดจะดีขึ้น การรับประทานยาคุมกำเนิดจะทำให้ปวดศีรษะมากขึ้น ความเครียด พยายามควบคุมความเครียด หาเวลานั่งพักหลับตาหยุดคิดและผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ปัจจัยสิ่งแวดล้อม การเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ อากาศ แสงไฟกระพริบ กลิ่นที่ฉุนเฉียว การรักษาไมเกรนด้วยยา การรักษาด้วยยาแบ่งออกเป็นการรักษาเมื่อมีอาการปวดศีรษะ [acute treatment] และการรักษาเพื่อป้องกัน [preventive treatment] จะใช้ในกรณีที่ปวดศีรษะรุนแรงและบ่อย acute treatment ยาแก้ปวดศีรษะมีด้วยกันหลายชนิดควรรับประทานทันทีที่เริ่มมีอาการปวดศีรษะไม่ควรรับประทานยาบ่อย หรือมากกว่าที่แพทย์สั่ง ยาแก้ปวดและบรรเทาอาการอื่นยาบางชนิดอาจหาซื้อได้จากร้านขายยาเช่น paracetamol ,aspirin, ibuprofen ยา aspirin ไม่ควรใช้กับเด็ก ผู้ป่วยบางรายอาจรับประทานยากลุ่มเหล่านี้ก่อนพบแพทย์ แต่ถ้าไม่หายแพทย์อาจให้ยาแก้ปวดที่มีประสิทธิภาพในการบรรเทาอาการปวดศีรษะดีขึ้น แต่ยาบางตัวอาจมีแนวโน้มที่จะเสพติด แพทย์บางท่านอาจให้ยา Nonsteroidal anti-inflammatory drugs เช่น mefenamic,diclofenac,ibuprofen แทนกลุ่มที่จะมีแนวโน้มทำให้เสพติด ผู้ป่วยไมเกรนนอกจากจะมีอาการปวดศีรษะแล้วยังมีอาการคลื่นไส้อาเจียนร่วมด้วย ดังนั้นควรได้รับยาแก้คลื่นไส้หากมีอาการคลื่นไส้มาก ยาที่หยุดอาการไมเกรน ยาในกลุ่มนี้มีสองชนิดได้แก่ Ergot alkaloids และ Triptans Migraine prevention หากอาการปวดศีรษะไมเกรนเป็นรุนแรงเป็นบ่อบแพทย์จะแนะนำยาป้องกันไมเกรน ซึ่งสามารถลดความถี่ ความรุนแรงและระยะเวลาที่ปวด และเมื่อสามารถควบคุมอาการได้แพทย์จะแนะนำให้ค่อยๆลดยาลงยาในกลุ่มนี้ได้แก่ Antidepressants ยาลดอาการซึมเศร้าสามารถป้องกันปวดศีรษะไมเกรนได้เช่น amitriptyline, nortriptyline, and doxepin Beta-blockers เป็นยาลดความดันโลหิตสูงและรักษาโรคหัวใจแต่สามารถนำมาใช้ป้องกันไมเกรนได้เช่น propranolol, metoprolol, timolol, nadolol, or atenolol การจะใช้ยากลุ่มนี้ควรอยู่ในการดูแลของแพทย์เนื่องจากมีผลต่อความดันโลหิตและต่อการเต้นของหัวใจ Calcium channel blockers เป็นยาลดความดันโลหิตสูงและรักษาโรคหัวใจแต่สามารถนำมาใช้ป้องกันไมเกรนได้เช่น verapamil, diltiazem, or nifedipine. การจะใช้ยากลุ่มนี้ควรอยู่ในการดูแลของแพทย์เนื่องจากมีผลต่อความดันโลหิตและต่อการเต้นของหัวใจ Serotonin antagonists เช่น cyproheptadine. เป็นยาที่ทำให้อยากอาหารไม่ควรใช้ยาตัวนี้ในเด็ก Anticonvulsants เป็นยากันชักใช้ได้ผลดีโดยเฉพาะ valproate ยาตัวนี้ให้ใช้กับเด็กอายุมากกว่า 10ปี คนจำนวนไม่น้อยเลือกหยุดอาการไมเกรนด้วยการับประทานยา ซึ่งแม้จะได้ผลในการปวดครั้งนั้น แต่การทานยาแก้ปวดสม่ำเสมอยังมีผลข้างเคียงต่อ กระเพาะอาหาร ตับ และไตอีกด้วย หลอดเลือดอักเสบ ทำให้เมื่อหลอดเลือดขยายตัวแล้วจะเกิดอาการปวดอีกด้วย ถ้าใช้ยาประเภทนี้บ่อยๆจะเกิดโรคลูกโซ่ตามมาจากการใช้ยาแก้ปวดประเภทนี้ในวันข้างหน้าแน่นอน ยาแก้ปวดไมเกรน ทุกชนิดมีผลต่อตับอย่างแต่นอน เมื่อตับทำงานหนักและเสื่อมลง ย่อมทำให้ภูมิคุ้มกันในร่างกายลดลง ซึ่งย่อมให้เกิดโรคต่างๆตามมาได้อีกหลายโรค ข้อสำคัญการรับประทานยาแก้ปวดประเภทไมเกรนเป็นประจำ จะทำให้เกิดอาการรุนแรงในการปวดครั้งๆต่อๆไปมากขึ้น และต้องพึ่งยาที่มากขึ้นหรือแรงขึ้นไปอีก จนบางครั้งอาจปวดจนถึงขั้นต้องพึ่งยาฉีดเข้าเส้นเลือดประเภทมอร์ฟีนหรือสเตอรอยด์เข้าไปด้วย การรักษาโดยไม่ต้องใช้ยา มีรายงานว่าการรักษาโดยไม่ต้องใช้ยาก็สามารถบรรเทาอาการปวดศีรษะ การทำสมาธิ การจัดการกับความเครียด การฝังเข็ม การออกกำลังกาย Credit : http://www.manager.co.th/AstvWeekend/ViewNews.aspx?NewsID=9550000152937
|
|
Copyright © 2012 BigBee Clinic. All Rights Reserved. Power by BigBee Farm. |